Menu
สายด่วนบริการลูกค้า : 02-692-8404-12

หน้าแรก / ข่าวสาร

มิติใหม่แห่งการบิณฑบาต พระเข็นตู้กับข้าวรับอาหาร แก้ปัญหาขยะล้นโลก

10/10/2019

             หากใครคิดว่าการช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาตินั้นเป็นเรื่องไกลตัวและไม่ใช่หน้าที่ของเราแล้วนั้น หากเห็นข่าวนี้แล้วหากใครคิดผิดคิดใหม่ยังทัน หลังพระสงฆ์ที่เราคิดว่าต้องปฎิบัติศีลปฎิบัติธรรมสวดมนต์กันอย่างเดียว ได้เปิดมิติใหม่แห่งการบิณฑบาต ด้วยการบิณฑบาตรักษ์โลกซีโร่เวสต์ (Zero Waste) เข็นตู้กับข้าวเพื่อใส่อาหารที่ญาติโยมนำมาบิณฑบาต ลดโฟม-พลาสติก แก้ปัญหาขยะล้นโลก
            โดยทุกๆ 7 โมงเช้าเสียงฆ้องจากรถเข็นตู้กับข้าวของวัดป่าบุก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน จะดังเตือนชาวบ้านหมู่บ้านป่าบุก ปลุกญาติโยมให้ลุกขึ้นมาใส่บาตร ต่างจากภาพการบิณฑบาตของพระส่วนใหญ่ที่มักจะเห็นเด็กวัดออกแรงเข็นรถเข็นเดินตามพระ พร้อมถุงข้าว ถุงแกง โฟมพลาสติกมากมายที่ล้นจนเต็มรถ แต่ที่วัดป่าบุก เจ้าอาวาส และรองเจ้าอาวาสวัด ได้ออกเดินเท้าเข็นรถเข็นที่มีตู้กับข้าวซ้อนอยู่ด้านบน ซึ่งหากญาติโยมที่ศรัทธามาตักบาตร ก็เพียงตักใส่บาตร ใส่จานอยู่ในตู้กับข้าวก็กลายเป็นว่าหมดปัญหาเรื่องขยะพลาสติกไปในตัว
            ด้าน พระครูปลัดพิภพ กนตธมโม เจ้าอาวาสวัดป่าบุก เล่าว่า “การบิณฑบาตโดยเข็นตู้กับข้าวมาด้วยมีมานาน 20 ปีแล้ว ตั้งแต่เจ้าอาวาสรูปก่อน เพื่อช่วยลดขยะพลาสติก และหมู่บ้านป่าบุกก็เป็นศูนย์การเรียนรู้ มีการรณรงค์การลดขยะมานานแล้ว”
            สอดคล้องกับ พระสมุห์ณัฐธีร์ สุขวฑฒโก รองเจ้าอาวาสวัดป่าบุก ที่ถือว่าเป็นผู้ร่วมบุกเบิกไอเดียนี้ และร่วมปลูกฝังให้ชาวบ้านใส่ใจโลกร้อนลดขยะพลาสติกอยู่อย่างพอเพียง ย้ำนี่คือวิถีชีวิตชุมชนบ้านป่าบุกที่สืบต่อจากรุ่นสู่รุ่น “ตู้กับข้าวที่เข็นนี้ก็มีอายุ 20 ปีแล้ว เมื่อก่อนวิถีชีวิตของชาวบ้านญาติโยมจะนำปิ่นโตมาถวายพระที่มาเดินบิณฑบาต จากนั้นทางวัดก็เริ่มพัฒนามาเป็นรถตู้กับข้าว เมื่อญาติโยมนำอาหารที่ใส่จานชามของพวกเขาถวายให้พระ อาตมาก็จะนำจานชามของชาวบ้านที่เต็มไปด้วยอาหารมาเปลี่ยนใส่เป็นจานชามของทางวัด จากนั้นก็ใส่ตู้กับข้าวเพื่อความสะอาด เพื่อเป็นการลดใช้ถุงพลาสติก และโฟม นอกจากจะลดขยะแล้ว ยังช่วยป้องกันสารเคมีก่อให้เกิดโรคต่างๆ จากพลาสติกและโฟมด้วย
            โดยในหนึ่งวันจะออกบิณฑบาตเพียง 1 เส้นทางจาก 4 เส้นทางของหมู่บ้าน ชาวบ้านจะรู้ว่าวันไหนพระจะเดินเส้นทางไหน ที่ทำแบบนี้เพราะชาวบ้านจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนมาใส่บาตรทุกวัน และที่วัดมีพระเพียงแค่ 2 รูป หากไปทุกเส้นทาง อาหารที่ได้มาจะเยอะเกินไปจนฉันไม่หมด
            นอกจากการลดขยะด้วยการบิณฑบาตรแบบใหม่แล้ว ทางวัดยังได้มีการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในกิจกรรมอื่นๆของวัดอีก เช่นการจัดงานศพจะให้เจ้าภาพประหยัดค่าใช้จ่าย โดยจะให้เลี้ยงอาหารจานเดียวทุกคนตักเองแค่พอกิน ใช้เต็นท์แทนปราสาทตั้งศพตามพิธีกรรมของภาคเหนือเพื่อลดขยะและค่าใช้จ่าย มอบต้นไม้แทนพวงหรีด ใช้ดอกไม้จันทน์เคารพศพแทนการจุดธูป และที่สำคัญต้องงดเลี้ยงเหล้าแขกที่มาในงานช่วงแรกก็มีคนต่อต้านบ้างเพราะต่างจากธรรมเนียมเดิมของคนภาคเหนือ แต่พอผลสำเร็จออกมาดีทุกคนก็เริ่มยอมรับเพราะทั้งช่วยเรื่องอสิ่งแวดล้อมและลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
            นอกจากนี้วัดยังมีการจัดการคัดแยกขยะที่เป็นระบบ ขยะอินทรีย์จะมีชาวบ้านมารับไปทำเป็นปุ๋ย ขยะรีไซเคิลจะนำไปให้กับชุมชน ส่วนขยะทั่วไปจะรวบรวมใส่ถุงดำเพื่อให้เทศบาลนำไปกำจัด และสำหรับขยะอันตรายหากมีก็จะนำไปทิ้งตรงจุดของหมู่บ้าน รวมถึงพื้นที่ 2 ไร่ภายในวัดยังอัดแน่นไปด้วยของรีไซเคิลจากขยะ และพื้นที่ปลูกผักไร้สารพิษ สำหรับขยะพลาสติกนั้นก็นำมารีไซเคิลต่อยอดบุญ เมื่อมีงานบุญกฐิน ชาวบ้านจะนำซองน้ำยาปรับผ้านุ่ม ซองบะหมี่สำเร็จรูป มาใช้ประดับกองกฐิน ด้วยการประดิษฐ์ให้กลายเป็นดอกไม้ ซึ่งเป็นการนำขยะมาใช้ประโยชน์
            นอกจากวัดป่าบุกแล้ว หมู่บ้านป่าบุกถือว่าเป็นชุมชนปลอดขยะ Zero Waste ทุกบ้านจะมีถังแยกขยะ ส่วนขยะย่อยสลายได้จะถูกนำไปใช้ทำปุ๋ย ของที่เหลือใช้จะนำมาประดิษฐ์เป็นของใช้ ทั้งเก้าอี้จากก้านต้นตาล กระเป๋าจากเศษผ้า กระถางต้นไม้จากยางรถยนต์ อิฐบล็อกจากเศษโฟม ทั้งหมดนี้สามารถสร้างรายได้เสริมให้คนในชุมชน ไม่พอยังมีการปลูกฝังความคิดให้เยาวชนรุ่นต่อไปสืบทอดกิจกรรมชุมชนให้เป็นชุมชนปลอดขยะ และจะรวมตัวกันทุกวันอาทิตย์ปฏิบัติหน้าที่ "สารวัตรขยะ" ทำหน้าที่ขี่จักรยานพ่วงข้างร่วมกับเด็กขยะพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ถนนในหมู่บ้านป่าบุกดูสะอาดตาเนี้ยบน่ามอง สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ ผักปลอดสารพิษ และธรรมชาติที่รื่นรมย์ จากอดีตที่มีขยะทุกชนิดรวมกันถึงวันละ 246 กิโลกรัม!! แต่ทุกวันนี้กลับกลายเป็น “0”